FERMENTI

จากภายนอก เราจะเห็นผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแป้งครัวซองต์ ผืนผ้าใบนั้นทำหน้าที่สร้างความเป็นส่วนตัว และกรองแสงบางส่วนให้ภายในร้านมีภาวะน่าสบายมากขึ้น แต่การเลือกใช้ผ้าใบก็เพื่อให้องค์ประกอบของร้านยังคงมีความนุ่มนวลและต่อเนื่องไปด้วยกันอยู่นั่นเอง . ผนังกระจกขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายใน "เพราะแสงธรรมชาตินั้นหมายถึงชีวิตชีวา" คุณโต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร ผู้ออกแบบได้บอกกับเรา ซึ่งก็เห็นว่าจริง พื้นที่ชั้นล่างได้ถูกปรับเปลี่ยนหลังการรีโนเวตให้กลายเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีเก้าอี้นั่งแต่น้อย เน้นความโล่งและบาร์ยืนเสียเป็นส่วนมาก วัสดุที่เลือกใช้คือทรายล้างและผนังหินพ่น ก่อนจะจบวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ และผนังบางส่วนด้วยวัสดุกรุคล้ายโลหะมันวาวสื่อถึงพื้นผิวดวงจันทร์ และโครงสร้างของยานอวกาศที่จะพาเราไป . ชั้น 2 เป็นพื้นที่กึ่งแกลเลอรี่มีโต๊ะใหญ่สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปิน (ที่มาจากขั้นตอนการผลิตครัวซองต์)ในอนาคต ส่วนชั้นล่างนั้นได้เลือกออกแบบให้เป็นครัวกึ่งเปิดที่สามารถมองเห็นทุกขั้นตอนของการผลิตครัวซองต์ได้อย่างชัดเจน ก่อนจะนำพาผ่านเคาน์เตอร์บาร์มาสู่โต๊ะและปากของทุกคน การสื่อสารที่ดีที่สุดคือการทำให้ดู และครัวซองต์สดใหม่ที่มองเห็นได้ในทุกขั้นตอนก็คงจะไม่จำเป็นต้องสื่อสารอะไรเพิ่มเติมไปกว่านี้ . "To The Moon" คือนิยามที่แทนค่าได้มากมายในร้านแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นครัวซองต์ที่มีความหมายว่า พระจันทร์ ได้เช่นเดียวกัน หรือฟิล์มรูปวงกลมบนผนังกระจกบานใหญ่ มองจากด้านนอกแล้วคล้ายดวงอาทิตย์ แต่ถ้ามองจากด้านในจะเหมือนพระจันทร์เต็มดวง รวมทั้งความท้าทายของโลกแห่งการทำครัวซองต์ที่ยังมีอีกหลายสิ่งให้ค้นหาและพัฒนาต่อเนื่องไป